วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

ข่าว AEC ประจำวันที่ 20 เมษายน 2555


1. ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ มี.ค.สูงสุดรอบ 7 เดือน                                                                                                          

          นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมี.ค. 2555 ที่ได้จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,038 ราย ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรม 42 กลุ่ม พบว่าค่าดัชนีอยู่ที่ 102.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก.พ. 2555 ที่อยู่ระดับ 100.9 ซึ่งเพิ่มขึ้นเหนือ 100 เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันและเป็นค่าดัชนีสูงสุดในรอบ 7 เดือน นับตั้งแต่เดือนก.ย. 2554 ปัจจัย มาจากการฟื้นตัวของภาคการผลิต และการเร่งผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อรองรับความต้องการสินค้าช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งอุตสาหกรรมที่มีความเชื่อมั่นมากขึ้น เช่น อาหาร และเครื่องดื่ม น้ำตาล ชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ .......

อ่านเพิ่มได้ที่: http://tisccm.moc.go.th/tisc/news.aspx?file_upload_id=3886

วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2555

ข่าว AEC ประจำวันที่ 29 มีนาคม 2555



1. กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จัดสัมมนา DTN ANNUAL SYMPOSIUM 2012 AEC 2015 and Beyond
       
         กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดประชุมทางวิชาการในหัวข้อ DTN ANNUAL SYMPOSIUM 2012 AEC 2015 and Beyond เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2555 โดยมีวิทยากรที่มีชื่อเสียงจากภาครัฐ และเอกชน ทั้งในและต่างประเทศร่วมพูดคุยให้ความรู้ในงาน ดังนี้
         นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาว่า ภูมิภาคอาเซียนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและน่าประทับใจโดยเฉพาะประเทศพม่า นอกจากนี้ความร่วมมือระหว่างภูมิภาคก็สามารถเดินหน้าไปได้อย่างดี อยากให้ชาติสมาชิกทั้ง 10 มีความคิดตรงกันว่าควรหันมามุ่งเน้นพัฒนาฯ ตนเองให้ดียิ่งขึ้นมากกว่าจะมุ่งแข่งขันเพื่อเอาชนะซึ่งกันและกัน หาจุดแข็งของตนเองให้เจอและปิดจุดอ่อนที่มี ถ้าประเทศของเราหรืออื่นๆ ประสบคความสำเร็จก็ย่อมหมายถึงความสำเร็จของอาเซียนในภาพรวมทั้งหมดด้วย
          นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า อาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยประชากร กว่า 590 ล้านคน จึงมีบทบาทสำคัญต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของโลกที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนใน 3 ปีข้างหน้า จำเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมกันให้ความรู้ในวงกว้างเพื่อกระตุ้นให้เกิดการรับรู้ถึงประโยชน์และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นหลังเปิดเสรี เพื่อที่จะไม่มีใครที่ได้ประโยชน์เพียงฝ่ายเดียวและทิ้งคนอื่นไว้ข้างหลัง .....

อ่านเพิ่มเติมที่: http://tisccm.moc.go.th/tisc/news.aspx?file_upload_id=3801